นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ได้วางแนวทางการทำตลาดใหม่ “คีฟ ทราเวลลิ่ง อะเมซิ่ง อะเกน (Keep Travelling, Amazing Again)เพื่อกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการ ออกเดินทาง อย่างต่อเนื่อง ด้วยการส่งเสริมตลาดร่วมกับสายการบินให้กลับมาทำการบินได้มากกว่า 80% ทั้งฟื้นเส้นทางบินเก่าเปิดเส้นทางบินใหม่ และให้บริการเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟลต์) พร้อมผลักดันอัตราการขนส่งผู้โดยสารให้มีจำนวนเฉลี่ย 80-90% พร้อมสื่อสารการตลาดและทำแบรนดิ้งให้ประเทศไทย สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปีปิดช่องความแตกต่างของกระแสนักท่องเที่ยวระหว่างไฮซีซั่นกับโลว์ซีซั่นพร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์โปรดักไฮไลต์โดยเฉพาะ “ซอฟต์พาวเวอร์” ทั้ง 5 เอฟ : ฟู้ด ฟิล์ม แฟชั่น เฟสติวัล และไฟล์คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ส่วน “ความมหัศจรรย์ หรือ อะเมซิ่งไทยแลนด์ ที่จะให้กลับมาอีกครั้ง ได้ร่วมมือกับผู้ประกอบการ ปรับเปลี่ยนจากโปรดักแคตตาล็อก เป็น “เมนูประสบการณ์” เพื่อสร้างความประทับใจจากประสบการณ์ใหม่ ๆ ซึ่จะดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวไทย ล่าสุด ททท.ได้ยื่นเรื่องไปยังกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาแล้ว เพื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่ออายุมาตรการขยายระยะเวลาพำนักของวีซ่าจากเดิมจะสิ้นสุดในวันที่ 31 มี.ค. 66 ขยายมาตรการให้สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.คคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. 2566 ทั้งแบบฟรีวีซ่าขยายระยะเวลาพำนักจากเดิมไม่เกิน 30 วัน เป็นไม่เกิน 45 วัน และแบบวีซ่าหน้าด่าน (วีซ่า ออน อาร์ไรวัล) ขยายจากเดิมไม่เกิน 15 วัน เป็นไม่เกิน 30 วัน
นอกจากนี้ได้กล่าวว่า ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ (1 ม.ค.-28 ก.พ.)สถานการณ์ท่องเที่ยวภาพรวมยังคงฟื้นตัวดีต่อเนื่อง มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาไทยสะสม 4.2 ล้านคน สร้างรายได้มากกว่า 1.42 แสนล้านบาท ทำให้ ททท.เชื่อว่าจะยังเห็นภาพ “เที่ยวล้างแค้น” ไปอีกสักพักโดยเฉพาะนักท่องเที่ยว “ตลาดจีน” ที่ต้องรอการฟื้นตัวชัดเจนในช่วงตารางบินฤดูร้อนนี้
ด้านนักท่องเที่ยว ตลาดยุโรป ยังมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบทั้งภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย ภาวะเงินเฟ้อและราคาพลังงานปรับสูงขึ้น โดยตั้งเป้าหมายปีนี้มีนักท่องเที่ยวยุโรปเดินทางมาไทย 6 ล้านคน ฟื้นตัว 80% โดยมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนต่อครั้ง 70,000 บาท สร้างรายได้ 4.2 แสนล้านบาท ปัจจุบันนักท่องเที่ยวยุโรปจากหลายประเทศมีจำนวนวันพักเฉลี่ยเกิน 20 วันหลังไทยเปิดประเทศเต็มรูปแบบเพิ่มขึ้นจากเฉลี่ยพักไม่น้อยกว่า 18 วัน
“ตามแผนของ ททท.ปีนี้ เชื่อว่าจะบรรลุเป้าหมายสามารถสร้างรายได้รวมการท่องเที่ยว 2.38 ล้านล้านบาท ฟื้นตัว 80% เมื่อเทียบกับปี 62 ก่อนวิกฤติโควิด-19 แบ่งเป็นรายได้จากตลาดต่างประเทศ 1.5 ล้านล้านบาท มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 25-30 ล้านคนและรายได้จากตลาดในประเทศ 8.8 แสนล้านบาท มีจำนวนนักท่องเที่ยวไทยไม่น้อยกว่า 160 ล้านคน-ครั้ง ภายใต้ “ปีท่องเที่ยวไทย 2566” (Visit Thailand Year 2023: Amazing New Chapters) และยังมีเป้าหมายฟื้นจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้ให้กลับไปเท่ายุคทอง เมื่อปี 62เคยสูงสุดเป็นประวัติการณ์ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 40 ล้านคน ทำรายได้มากเป็นอันดับ 4 ด้วย”